ตอบโจทย์ เรื่อง สถาบันพระมหากษัตริย์


“สุภิญญา” หนึ่งใน กสทช.เผยพร้อมนำเหตุไทยพีบีเอสสั่งยุติรายการตอบโจทย์ ถกที่ประชุมพร้อมเคสเหนือเมฆ 2 ยันไม่ควรถอด เล็งหาจุดกึ่งกลางสื่อ-คนดู แนะพิธีกร ร้อง กก.สิทธิฯ คุ้มครองเสรีภาพ ด้าน “คำ ผกา” ได้ทีเย้ย บก.ข่าวสังคมฯ TPBS เคยโวยช่อง 3 แบนเหนือเมฆ แต่ช่องตัวเองเป็นเสียเอง ไล่เอาดีละครน้ำเน่า
       
       วันนี้ (17 มี.ค.) น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวถึงกรณีนายภิญโญ ไตรสุริยธรรมา ประกาศยุติรายการ “ตอบโจทย์ประเทศไทย” จากการที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสสั่งยุติการออกอากาศรายการดังกล่าว “ตอนสถาบันพระมหากษัตริย์ ภายใต้รัฐธรรมนูญ” ตอนที่ 5 เมื่อคืนวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า ตนเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ก็เหมือนกับกรณีละคร “เหนือเมฆ 2” ที่ทางสถานีเซ็นเซอร์เอง ซึ่งเมื่อเกิดเรื่องทำนองนี้ขึ้นบ่อยๆ ตนก็จะเสนอเรื่องต่อบอร์ด กสทช.ในวันจันทร์ที่ 18 มี.ค.นี้ ซึ่งมีวาระเรื่องที่ละครเหนือเมฆ 2 ถูกเซ็นเซอร์เข้าสู่ที่ประชุมพอดี เพื่อวางเกณฑ์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับการเซ็นเซอร์ของทางสถานี ว่ามีกรณีไหนบ้างที่เซ็นเซอร์ตัวเองได้ มิเช่นนั้นก็จะมีการกระทำในทำนองนี้กันอย่างกว้างขวาง รวมทั้งวางมาตรการในการเยียวยา
       
       “ดิฉันเชื่อว่าทางสถานีไทยพีบีเอสรู้มาก่อนแล้วว่าคุณภิญโญจะจัดรายการเรื่องนี้ ดังนั้นทางสถานีจึงไม่ควรสั่งยุติรายการ อาจมีปัญหาในเรื่องของเนื้อหาที่จัดรายการอยู่บ้างว่าเกี่ยวข้องกับกฎหมายหมิ่นเบื้องสูงหรือขัดต่อความมั่นคง แต่การทำงานของสื่อก็มีบรรณาธิการ ทำหน้าที่กลั่นกรองอยู่แล้ว การที่ทางสถานีสั่งยุติรายการ อาจเป็นเพราะถูกกดดันจากสังคมหรือเหตุผลทางการเมือง ดังนั้นก็ต้องหาจุดกึ่งกลาง หากไม่สั่งยุติรายการ ก็อาจเป็นการขัดใจมวลชน แต่ขณะเดียวกันก็อาจทำให้บรรยากาศของสื่อในการนำเสนอคลุมเคลือและต้องคำนึงถึงคนดูด้วย” น.ส.สุภิญญากล่าว
       
       น.ส.สุภิญญ ยังกล่าวว่า สำหรับนายภิญโญซึ่งเป็นลูกจ้างอิสระ สามารถนำเรื่องที่ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสสั่งยุติรายการไปร้องต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 46 ที่บัญญัติคุ้มครองลูกจ้างของเอกชนที่ประกอบกิจการวิทยุโทรทัศน์ในเรื่องเสรีภาพในการเสนอข่าวและแสดงความคิดเห็น โดยไม่ตกอยู่ภายใต้อาณัติของเจ้าของกิจการนั้น
       
       ต่อมา น.ส.ลักขณา ปันวิชัย หรือที่รู้จักกันในนาม “คำ ผกา” นักเขียนที่เคยเป็นที่รู้จักในฐานะนักเขียนคอลัมน์เรื่อง “กระทู้ดอกทอง” และพิธีกรในสถานีวอยซ์ทีวี ของนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ @kamphaka ระบุว่า...
       
       “อ่านถ้อยแถลงของนาตยา มาเหนือเมฆ แล้วชอบมากเพราะเปิดโปงธาตุแท้ของสื่อเทียมได้ถึงแก่น ขอถามนาตยาสั้นๆ อายตัวเองบ้างไหมที่เรียกตัวเองว่าสื่อ? หรือเราจะต้องการทีวีสาธารณะ รัฐ อิอิ จุดยืนของทีวีที่อ้างตัวเองเป็นสื่อที่วิเศษกว่าใคร เป็นคนดี เกลียดนายทุน รักคนจน รักคนชายขอบ มันกลายเป็นเรื่องชวนหัว น่าหัวร่อ น่าอาย สรุปง่ายๆ - อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจ 'คนดี' ไทยพีบีเอสมาเอาดีทางทำละครน้ำเน่าเถอะค่ะ จะได้ไม่ต้องรอละครเลหลังจากช่อง 3”
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ในช่วงที่ช่อง 3 ตัดสินใจยุติการออกอากาศละคร “เหนือเมฆ 2” เพราะปัญหาแรงกดดันทางการเมืองนั้น น.ส.ณาตยา แวววีรคุปต์ บก.ข่าวสังคมและนโยบายสาธารณะไทยพีบีเอส เคยโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “เอาละครเหนือเมฆมาฉายช่องไทยพีบีเอสสิคะ รัฐบาลหรือฝ่ายค้านก็แบนไม่ได้”
       
       สำหรับ “คำ ผกา” นั้น ในภาษาเหนือหมายถึง “ดอกทอง” เป็นหนึ่งในกลุ่มที่ร่วมลงชื่อต่อต้านกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่าด้วยเรื่องการดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์โดยเฉพาะ โดยถึงกับเคยเปลือยอกประท้วง เพื่อสร้าง “ปมเด่น” เรียกร้องความสนใจ โดยอ้างมั่วๆ ว่าการคงไว้ของกฎหมายมาตรานี้ไปจำกัดการแสดงออก แสดงความคิดเห็นของพวกเธอ
       
       นอกจากนี้ยังเคยเขียนคำวิจารณ์ที่ไม่เหมาะสม อาทิ “ผู้หญิงไม่เหมาะสมกับการเป็นผู้มีอำนาจ - อม xวยพระมาพูดก็ไม่เชื่อค่ะ


ที่มา: www.sapanaka.com


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น